หนุ่มรายนี้ (ไม่เปิดเผยชื่อ) เล่าว่า ตนเรียนจบปริญญาเอกเมื่อปี 2017 ด้านวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง แต่หลังจากนั้น กลับไม่สามารถหางานทำได้เลยจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 ปี เข้าให้แล้ว โดยตลอดเวลานับตั้งแต่เรียนปริญญาตรี , โท และ เอก เขาไม่เคยทำงานใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นคนที่ชอบเรียนหนังสือมาก และตั้งใจให้จบการศึกษาขั้นสูงสุด แล้วจึงค่อยออกมาหางานทำ
สาเหตุที่ ชายคนนี้ไม่สามารถหางานได้ตลอด 2 ปี เนื่องจากว่า บริษัทต่างๆ ไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าจ้างตามอัตราที่กฏหมายกำหนดให้กับผู้จบการศึกษาปริญญาเอกอย่างเขา รวมไปถึงปัจจัยที่มีคุณสมบัติเกินความต้องการของหน่วยงานต่างๆ หรือจะเรียกกันง่ายๆว่า เก่งเกินไป จึงทำให้ไม่มีใครกล้าจ้างเข้ามาทำงานด้วย
หลังจากนั้น หนุ่มคนนี้ตัดสินใจ ส่งใบสมัครงานด้วยการใช้วุฒิปริญญาตรี เท่านั้น ทำให้มีหลายที่ติดต่อเรียกไปเจรจา สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่ได้งานอยู่ดี เนื่องจากบริษัทต่างๆ ถามว่า อายุ 32 ปีแล้ว ทำไมจึงไม่มีประสบการณ์ทำงานที่ใดเลยสักที่ ชายคนนี้จึงยอมรับความจริงว่าเอาเเต่ศึกษาร่ำเรียนมาโดยตลอดจนจบปริญญาเอก จนไม่เคยได้ลงมือทำงานที่ไหนเลยอย่างจริงจัง ซึ่งก็ไม่มีผล เพราะเขาก็ยังไม่ได้งานทำจากการเป็นคนที่มีคุณสมบัติสูงเกินไปอยู่ดี
สุดท้าย เมื่อหลังชนฝา ไม่สามารถหางานทำได้ หนุ่มคนนี้จึงตัดสินใจประกอบอาชีพ ขับ GrabFood ส่งอาหาร ในการหาเงินเลี้ยงคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงน้องอีก 3 คน ที่กำลังเรียนอยู่ สร้างความปวดหัวใจให้กับเขาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นคนที่พ่อแม่ตั้งความหวังไว้สูงจากการทุ่มเงินส่งเรียนจบจบปริญญาเอก แต่ไม่สามารถหางานที่มีรายได้ต่อเดือนสูงๆ กับองค์กรต่างๆได้เลย
"ผมได้แต่ขอโทษพ่อแม่ ผมรู้สึกเสียดายจริงๆที่เป็นแบบนี้ หากย้อนเวลาไปได้ ผมคงจะทำงานหาประสบการณ์ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี หรือ โท แล้วค่อยมาเรียนต่อปริญญาเอกเอาดีกว่า ผมยอมรับว่าผมเป็นคนชอบเรียน ชอบศึกษาหาความรู้อยู่สม่ำเสมอ ผมพลาดไปจริงๆ ผมอยากจะฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ ให้ตั้งใจเรียน และวางแผนชีวิตให้ดีๆ ตอนนี้หลายๆสิ่งบนโลกเปลี่ยนไป ความรู้เพียงอย่างเดียวมันไม่พอที่จะเลี้ยงชีพได้ ประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ถ้าคุณมีความรู้แล้วไม่เอามาใช้ในการหากิน มันก็จะเหมือนกับหนังสือเล่มโตๆ ที่วางเรียงกันอยู่ในห้องสมุดนั่นแหละ" ชายหนุ่ม กล่าวด้วยความเศร้า
ขอบคุณแหล่งข่าวและภาพจาก : เวบไซต์เวิลออฟบัซ